ตำนาน มาร์ลินดำ สุดยอดแห่งปลา ที่จมเรือยาวกว่า 30 ฟุตได้

ตำนาน มาร์ลินดำ สุดยอดแห่งปลา ที่จมเรือยาวกว่า 30 ฟุตได้

มาร์ลินดำ หรือปลากระโทงดำ คือปลาที่เร็วที่สุดในโลก และมันยังยาวได้ถึง 15 ฟุต จัดเป็นปลาอันดับหนึ่งที่นักตกปลาทั่วโลกต้องการตกมัน เพราะนอกจากจะเร็วมันยังมีพลังต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่การตกปลาชนิดนี้ไม่ง่าย มันเป็นปลาที่ก้าวร้าว มีหลายกรณีที่มันพุงเข้าหานักตกปลาบนเรือจนได้รับบาดเจ็บ จริงๆ แล้วตกมาร์ลินดำ อันตรายกว่าตกฉลามขาวซะอีก และมีอยู่กรณีนึงมันถึงกับทำให้เรือตกปลาขนาด 30 ฟุต ต้องจมลงจากที่ต้องสู้กับมัน ซึ่งทีแรกผมเองก็คิดว่าเป็นเรื่องโม้ แต่มันคือเรื่องจริง เดี๋ยวเอาเรื่องนี้มาให้น้าๆ ได้อ่านกัน ..มีคลิปท้ายเรื่องอย่างมันส์ ไม่ใช่คลิปเรือจมนะ

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2013 เรือตกปลามาร์ลิน ของ West Coast Fishing Club ได้เกิดเหตุล่มในอ่าวของประเทศปานามา หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กับปลามาร์ลินดำ ที่กำลังก้าวร้าวอย่างมาก โดยบนเรือและแขกรวม 4 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากพวกเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วจากเรือ West Coast Fishing Club อีกลำที่อยู่ใกล้ๆ

เรือจมอย่างรวดเร็วและไม่คาดฝัน

อุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเกิดขึ้นในเวลาเพียง 1 นาที หลังจากการต่อสู้กับปลามาร์ลีนที่กำลังว่ายน้ำ และกระโดดไปด้วยความเร็วสูง และต้องรู้ก่อนว่าปลาชนิดว่ายน้ำได้เร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะฉะนั้นจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรในน้ำที่เร็วกว่ามัน ..และด้วยความเร็วของมัน ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นเร็ว

ภาพที่ถูกถ่ายโดยเรือพี่น้อง ที่อยู่ใกล้ๆ

“เรารู้สึกโล่งใจที่ได้รายงานว่านักตกปลารวมทั้งกัปตันและลูกเรือ ทุกคนอพยพออกจากเรือได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือสูญเสียชีวิต เนื่องจากกัปตันและลูกเรือของเรือลำของเราตอบกลับอย่างรวดเร็ว เราจึงช่วยเหลือได้ทันเวลา”

นักตกปลาที่อยู่บนเก้าอี้ ในขณะที่ถ่ายภาพที่น่าทึ่งนี้ Dave Saenz เชื่อว่าปลาตัวนี้หนักประมาณ 500 ถึง 600 ปอนด์และอธิบายว่า มันเป็น “การต่อสู้ที่รุนแรง ซึ่งจะทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน” เขากล่าวต่อไปว่า “ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ความทรงจำจะคงอยู่ไปตลอดชีวิต”

นักตกปลาที่นั่งบนเก้าอี้ต่อสู้กับมาร์ลิน เชื่อว่ามันหนักประมาณ 500-600 ปอนด์

เกี่ยวกับ Black marlin

ปลากระโทงดำ หรือ ปลามาร์ลีนดำ (Black marlin) เป็นปลาที่พบได้ในเขตร้อน – กึ่งเขตร้อนของอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก มีความยาวถึง 15 ฟุต และหนัก 750 กิโลกรัม มันเป็นปลากระดูกแข็งและใหญ่ที่สุดในโลก จึงทำให้ว่ายน้ำเร็วที่สุดในโลก

ถึงแม้จะมีการบอกเอาไว้ว่าปลาชนิดนี้ว่ายน้ำได้เร็ว 120 ฟุตต่อวินาที (82 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่งานวิจัยล่าสุดกลับชี้ให้เห็นว่ามันว่ายน้ำเร็วประมาณ 22 ไมล์ต่อชั่วโมง หากเทียบระหว่างมาร์ลินดำและมาร์ลินน้ำเงิน ต้องบอกว่ามาร์ลินดำ มีความแข็งแกร่งกว่ามาร์ลินน้ำเงิน มันจึงเป็นปลาเกมระดับสุดยอดที่นักปลาทั่วโลกต้องการตกมันสักครั้งในชีวิต

ปรากฎการธรรมชาติกรันเนี่ยนรัน ปลานับแสนถาโถมขึ้นชายหาด ไม่ได้ขึ้นมาตายแต่ขึ้นมาเพื่อมีชีวิตอยู่

กรันเนี่ยนรัน ปลานับแสนถาโถมขึ้นชายหาด ไม่ได้ขึ้นมาตายแต่ขึ้นมาเพื่อมีชีวิตอยู่

หนึ่งในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ที่จะเกิดขึ้นและได้ถูกเรียกว่า กรันเนี่ยนรัน (Grunion Run) มันคือเรื่องที่จะเกิดขึ้นใน แคลิฟอร์เนียตอนใต้ และไม่สามารถพบเห็นได้ที่อื่น มันคือการที่ปลากรันเนี่ยนนับแสนตัวขึ้นมาเพื่อผสมพันธุ์บนชายหาด ..เดี๋ยวผมจะมามาให้รู้จักกับปรากฎการณ์นี้ และมีคลิปที่ท้ายเรื่อง

กรันเนี่ยนรัน คืออะไร?

กรันเนี่ยนรัน (Grunion Run) เป็นคำที่ใช้เพื่อแสดงถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดของปลาประจำถิ่นขนาดเล็ก ของแคลิฟอร์เนีย ชื่อว่า “กรันเนี่ยน (California grunion), (Leuresthes tenuis)”

ปรากฎการณ์นี้ ปลาจะพร้อมใจกันถาโถมตัวขึ้นมาตามคลื่นชนพวกมันมารวมอยู่บนชายหาด แต่พวกมันไม่ได้ขึ้นมาฆ่าตัวตาย กลับกันเลย พวกมันขึ้นมาเพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ โดยกรันเนี่ยนรันแต่ละครั้งจะมีปลาขึ้นมานับหมื่นนับแสนพร้อมๆ กัน จนชายหาดกลายเป็นสีเงิน แน่นอนมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นตามาก

การผสมพันธุ์ของปลากรันเนี่ยน

เมื่อปลากรันเนี่ยน ขึ้นมากับคลื่นแล้วจนมากองที่ชายหาด ตัวเมียก็จะใช้หางขุดรูเพื่อเตรียมไว้วางไข่ ส่วนตัวผู้ก็จะเข้ากอดรัดแล้วปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปผสม แน่นอนว่าปลานับหมื่นนับแสน มันย่อมเกิดเหตุมะรุมมะตุ้ม หนึ่งเมีย เจ็ดตัวเป็นตัวผู้ หรืออาจมากกว่า

ภารกิจขยายพันธุ์ของปลา จะเกิดขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์บนชายหาดของแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่ซานตาบาร์บาร่า เคาน์ตี ลงไปจนถึง บาฮา แคลิฟอร์เนีย และจะกินเวลาประมาณสองชั่งโมง นับจากปลาฝูงแรกจนถึงฝูงสุดท้าย

และปรากฎการณ์นี้นอกจากจะให้ดูแล้ว ยังให้จับด้วยนะ แต่ต้องมีใบอนุญาตจับปลา ซึ่งก็เป็นปกติของอเมริกาอยู่แล้ว ถ้าจะจับปลา ตกปลา ต้องทำใบอนุญาติ ไม่งั้นผิดกฎหมาย ไม่เหมือนบ้านเรา จะจับก็จับเลย .. ลองดูภาพความสวยแปลกๆ ของปลาชนิดนี้กันจากคลิปเลย

ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับปลากรันเนี่ยน

กรันเนี่ยน (California grunion), (Leuresthes tenuis) เป็นปลาที่พบมากแถบชายฝั่งของทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย เป็นปลาที่มียาวเต็มที่ 19 เซ็นติเมตร เป็นปลาที่จับได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้มีความสำคัญมากนักในการประมง

การผสมพันธุ์จะเกิดขึ้นในช่วงประมาณเดือนมีนาคม – สิงหาคม ในคืนที่ 2 , 3 และ 4 หลังจากพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นหลังจากที่น้ำขึ้นสูงสุดเล็กน้อย

ปลากรันเนี่ยน จะว่ายเข้ามาที่หาดทรายและถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง จากนั้นตัวเมียแต่ละตัวจะขุดตัวเองด้วยหางลงไปในดิน แล้วจะวางไข่ในทรายเปียกๆ แล้วตัวผู้หลายตัวจะพยายามจับคู่กับตัวเมียคนโดยขดตัวอยู่รอบๆ ตัวเมีย และเมื่อผสมเสร็จพวกมันก็จะกลับสู่ทะเล

และเมื่อตัวเมียวางไข่เสร็จโผล่ขึ้นมาจากทราย และพาตัวลงชายหาดโดยปกติกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณครึ่งนาที ไข่จะยังคงฝังอยู่ในทรายจนกว่ากระแสน้ำในรอบต่อไปจะมา ซึ่งขึ้นอยู่กับดวงจันทร์รอบใหม่ในอีกสองสัปดาห์ต่อมา

นี่ก็คือเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของปลากรันเนี่ยน กับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจ จนถูกเรียกว่ากรันเนี่ยนรัน และถูกใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ..

ปลาพระจันทร์ สัตว์เลือดอุ่นประหลาด ที่สร้างความร้อนได้ด้วยตัวเอง

ปลาพระจันทร์ สัตว์เลือดอุ่นประหลาด ที่สร้างความร้อนได้ด้วยตัวเอง

👉ปลาที่เรียกว่า ปลามูนฟิช หรือ ปลาพระจันทร์ มันเป็นปลาทีหน้าตาประหลาด จริงๆ ผมคิดอยู่ว่าเจ้านี่คล้ายปลาแสงอาทิตย์ แต่ที่ประหลาดไม่ใช่หน้าตาเท่านั้น มันเป็น "ปลาเลือดอุ่นชนิดแรกของโลก" อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษที่ปลาอื่นไม่มีอีก แต่หากเทียบกับปลาแสงอาทิตย์ ดูมันมีชะตากรรมไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะมันดันเป็นปลาเนื้อดี "เนื้ออร่อย" ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นปลาที่มักโดนจับมากิน โดยเฉพาะเมนูญีปุ่น เดี๋ยวมาดูเรื่องราวของปลาพระจันทร์กันดีกว่า ถ้าชอบยังไงก็ฝากแชร์กันหน่อยนะครับ

“ปลามูนฟิช หรือ ปลาพระจันทร์ หรือ ปลาโอปาห์ ( Moon fish, Opah) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lampris guttatus ปลาทะเลกระดูกแข็งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลามูนฟิช (Lampridae)”

เป็นปลาที่มีรูปร่างกลมแป้น แบนข้างมาก ตามผิวหนังจะมีจุดกลมสีขาวที่เมื่อสะท้อนกับแสงเมื่ออยู่ใต้น้ำ แล้วจะมีความแวววาวดุจแสงจันทร์ จึงเป็นที่มาของชื่อสามัญ ครีบทุกครีบเป็นสีแดงสด มีขนาดใหญ่สุดได้ถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 270 กิโลกรัม แต่ขนาดโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักประมาณ 40–80 กิโลกรัม

ปลาเลือดอุ่นชนิดแรกของโลก

ตามข้อมูลปลาชนิดนี้เป็น “ปลาเลือดอุ่นชนิดแรกของโลก” มันได้รับการยืนยันจากทีมนักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ค้นพบว่าปลา Opah หรือ ปลาพระจันทร์ เป็นปลาเลือดอุ่นสายพันธุ์แรกของโลก มันเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์จำพวกนก

เลือดอุ่นแล้วดียังไง?

ในฐานะปลาแล้ว การที่เลือดอุ่นย่อมดีกว่าเลือดเย็น เพราะมันจะสามารถรักษาอุณภูมิของร่างกายได้ดีกว่า โดยปลาชนิดนี้จะรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นกว่าสภาพแวดล้อมในน้ำลึกประมาณ 5 องศาเซลเซียส ตัวอย่างเช่น ถ้าน้ำเย็น 5 องศาเซลเซียส ร่างกายของปลาจะอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยทำให้สามารถว่ายลงไปได้ลึกกว่าปลาทั่วไปและอยู่ใต้ทะเลลึกได้นานกว่า

กระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อน

“ที่ความลึกในสภาพเย็น ปลาจะมีวิธีการพิเศษ “แลกเปลี่ยนความร้อน” โดยอาศัยกล้ามเนื้อพิเศษบริเวณอก ผ่านการโบกครีบอกด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ความร้อนที่เกิดขึ้นจะคงอยู่ในร่างกายของมัน โดยชั้นไขมันใกล้ผิวหนังและกระบวนการจะเป็นดังต่อไปนี้”

👉จากผลการวิจัยที่เคยถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ระบุว่า เนื้อเยื่อในเหงือกของปลาจะนำเลือดแดง (เลือดที่ยังไม่ใช้งาน) ที่มีอุณหภูมิต่ำ (เย็น) เข้าสู่ร่างกาย ไหลเวียนผ่านกล้ามเนื้อที่สร้างความร้อน จากนั้นเลือดที่ใช้งานแล้ว (เลือดดำ) จะนำความร้อนและคาร์บอนไดออกไซด์ จากร่างกายมาเข้าสู่กระบวนการแลกเปลี่ยนที่เหงือกอีกครั้ง

ผลคือเลือดแดงชุดใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ร่างกาย จะได้รับการถ่ายเทความร้อนจากเลือดดำที่ไหลเวียนออกมา ทำให้ความร้อนในร่างกายไม่หายไปไหน นักวิจัยเรียกกระบวนการนี้ว่า Counter-current heat exchange

ความโชคไม่ดีของปลาพระจันทร์

ข้อแรกเลย ไม่ต้องไรมาก มันดันเป็นปลาที่อร่อย ข้อสองคือ เพราะมันเป็นปลาน้ำลึก พวกมันจะเคลื่อนที่ช้ามาก ด้วยความความเร็วประมาณ 25 เซนติเมตร/วินาที หรือถ้าหนีตายก็เร่งได้เป็น 4 เมตร/วินาที จึงไม่แปลกที่มันจะหนีนักล่าไม่ได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็น “ปลาหายาก” และแพงมาก ตามข้อมูลเห็นเคยมีขายในไทย 2500 บาทต่อกิโล

เป็นยังไงบ้างครับกับความสามารถของปลาชนิดนี้ ถ้าเป็นคนรู้จักระบบความเย็นของตู้เย็นหรือแอร์อยู่บ้าง คงคิดคล้ายผมว่า ปลาตัวนี้มันคล้ายตู้เย็นเลยแหะ เพียงแต่ตรงข้ามกัน “แทนที่จะดึงความร้อนออกจากตู้ เพื่อภายในตู้เย็นอยู่ตลอดเวลา 

มันกลับดึงความเย็นออกจากตู้แทน นั้นหมายความว่าภายในตู้จะร้อนตลอดเวลา” และด้วยกระบวนการนี้ปลาพระจันทร์จึงรักษาความร้อนให้กับร่างกายได้ตลอดเวลา จึงไม่ต้องกลัวเรื่องแข็งตายเท่าไร ..

ปลากะแมะ สัตว์ประหลาดนักตุ๋นแห่งป่าพรุโต๊ะแดง

ปลากะแมะ สัตว์ประหลาดนักตุ๋นแห่งป่าพรุโต๊ะแดง

ถ้าพูดถึงปลากะแมะ ผมเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ หรือไม่ก็เคยได้ยินแต่นึกไม่ออกว่าหน้าตาเป็นไง โดย "ปลากะแมะ" ถือเป็นหนึ่งในปลาประหลาดที่สุดชนิดหนึ่งที่พบได้ในไทย และเพราะอะไรถึงบอกว่ามันเป็นปลานักต้มตุ๋น เดี๋ยวมาดูเรื่องราวของมันกัน

ปลากะแมะ (Angler catfish) ชื่อวิทยาศาสตร์ Chaca bankanensis ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ (Chacidae) เป็นปลามีรูปร่างประหลาด หัวแบนราบมากและปากกว้าง ครีบหลังและครีบอกสั้น ก้านครีบอกมีขอบหยัก ครีบท้องใหญ่ มีผิวย่นและเป็นตุ่มขนาดต่างๆ หัวมีติ่งหนังอยู่โดยรอบ ลำตัวสีน้ำตาลแดงเข้มหรือน้ำตาลไหม้ ท้องสีจาง มีประและจุดสีคล้ำกระจายทั่ว มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20 เซนติเมตร

ทำไมมันจึงสัตว์ประหลาดนักต้มตุ๋น

เหตุผลแรกเลย เพราะมันเป็นปลาที่มีหน้าตาประหลาดมาก และมันก็เป็นปลาที่มีนิสัยการล่าเหยื่อคล้ายๆ กับปลาตกเบ็ด (Angler fish) ที่เป็นปลาทะเลน้ำลึก จนปลากะแมะมีชื่อ Angler catfish เพียงแต่หากค้นหารูปมันด้วยชื่อนี้จะไม่พบภาพของมัน เพราะมันเป็นปลาที่พบได้ในธรรมชาติแค่เพียงไม่กี่ที่ในโลก และในไทยก็พบได้ที่ “ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส” ที่เดียวเท่านั้น

มันเป็นปลาที่อยู่ท้องน้ำ แปะตัวอยู่บนพื้น ใบไม้ หรืออาจฝั่งตัวเข้าไปได้ด้วย และด้วยความที่เป็นปลาที่ล่าเหยื่อเหมือน ปลาตกเบ็ด มันจึงมีอุปกรณ์พิเศษนั้นคือ “หน้าตาที่ประหลาด ตัวแบน ปากใหญ่พิเศษที่มีแรงดูดมหาศาล และยังมีหนวดอีก 2 คู่”

หลอกเหยื่อด้วยหนวด และดูดเหยื่อด้วยปากใหญ่ๆ

องค์ประกอบทั้งหมดของปลากะแมะ ใช้เพื่อล่าเหยื่อโดยที่มันไม่ต้องว่ายไปมาสักเท่าไร เพราะมันจะใช้ หนวดคู่หลัก ซึ่งอยู่บริเวณมุมปาก ซึ่งหนวดนี่มีลักษณะเรียวแต่สั้น (ต่างจาก Angler fish จะยาวกว่ามาก) และมีสีขาวซีด

มันจะใช้หนวดที่บางครั้งมันกระดิกให้เหมือนหนอนได้ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือต้มตุ๋นอย่างหนึ่งของมัน และเมื่อมีปลาหลงกลว่ายเข้าใกล้ ก็จะถูกปากขนาดใหญ่ที่มีพลังดูดมหาศาล ดูกลืนเข้าไปอย่างง่ายดาย

สุดท้ายต้องบอกว่า ปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาหายาก เพราะในไทยพบได้ในป่าพรุโต๊ะแดง เท่านั้น กับอีกไม่กี่ประเทศในโลก และถึงแม้มันจะเป็นปลาที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม แต่ก็เป็นปลาที่เลี้ยงให้รอดยากมาก มันจึงตกอยู่ในสภาพปลาใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ .. ถ้าน้าๆ พบมันในธรรมชาติ ก็ตัดสินใจกันเอาเองว่าจะทำยังไงกับมัน

“แนวทางการเลี้ยง จำเป็นต้องเตรียมตู้เลี้ยงให้ดี หาใบหูกวางแห้งๆที่มีขายตามร้านขายปลากัดมาหรือจะหาเก็บเองก็ได้ นำมาล้างให้สะอาดที่หาถังน้ำที่ไม่ใช้มา 1 ถังเพื่อใช้หมัก จากนั้นนำใบหูกวางทั้งหมดเทลงไปในถัง แล้วใส่น้ำตามให้พอดีกับเศษใบหูกวาง หมักเอาไว้สัก 1 อาทิตย์ให้น้ำมันกลายเป็นสีแดงๆ ดำๆ เป็นใช้ได้ จากนั้นก็นำไปเทลงตู้ที่มีน้ำสะอาดๆอยู่แล้ว พักไว้อีกวันนึงแล้วเราก็นำปลามาใส่ได้เลย

เรื่องการจัดตู้ควรจัดโล่งๆ เพราะมันมีที่หลบเป็นเศษใบไม้อยู่แล้ว ถ้าเราต้องการจะดูว่ามันกินอาหารหรือเปล่าให้ลองนับจำนวนปลาเหยื่อที่ใส่ไปดู หรือจะทำแบบบุปเฟ่ก็ได้ปล่อยลงไปทีเดียวหมดถุง เวลาดูมันกินแล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกอาหารที่เหมาะกับปลาชนิดนี้คือ พวกปลาเหยื่อเล็กๆ แต่ไม่แนะนำพวกปลานิล และปลากัด เพราะพวกนี้มันชอบไล่กัดหนวดกระแมะ ..