Goblin shark
เอิ่ม…แค่เห็นมันงับก็โคตะระน่ากลัวแล้วง่ะ (ดูเจ้าปลาสิไหลลงกระเพาะมันเลย)
ปลาฉลามกอบลิน หรือ ปลาฉลามปีศาจ (อังกฤษ: Goblin shark, Elfin shark ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitsukurina owstoni) ปลากระดูกอ่อนจำพวกปลาฉลามชนิดหนึ่งเป็นปลาฉลามน้ำลึกที่พบเห็นตัวได้ยาก และมีรูปร่างลักษณะประหลาด อันเป็นที่มาของชื่อ และยังเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในวงศ์และสกุลเดียวกันนี้ก็ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็น "ซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต" อีกชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างแทบไม่แปรเปลี่ยนไปจากยุคก่อนประวัติศาสตร์
ปลาฉลามกอบลิน มีความยาวเต็มที่ได้ 3 หรือ 4 เมตร (10 และ 13 ฟุต) อาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกได้มากกว่า 100 เมตร (330 ฟุต) ซึ่งเป็นที่ ๆ แสงส่องลงไปไม่ถึง ปลาฉลามกอบลินมีลักษณะเด่น คือ บริเวณส่วนหัวด้านบนที่มีส่วนกระดูกที่ยื่นแหลมออกไปข้างหน้าเหนือกรามบน ในปากเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ซึ่งส่วนหัวที่ยื่นยาวออกไปนั้น ด้านล่างประกอบไปด้วยอวัยวะเล็ก ๆ หลายร้อยอันที่ทำหน้าที่เหมือนเซนเซอร์ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่จับได้แม้กระทั่งคลื่นไฟฟ้าอ่อนถึง 1 ในล้านโวลต์ เพื่ออาหารซึ่งได้แก่ ปู หรือสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ที่หลบซ่อนตัวลงในพื้นโคลนใต้ทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ หาอาหารได้ยากยิ่ง อีกทั้งกรามยังสามารถขยายออกมาเพื่อพุ่งงับเหยื่อมิให้หลุดไปได้อีกด้วยส่วนล่างของปาก
ปลาฉลามกอบลิน ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1873-76 จากการสำรวจของเรือเอชเอ็มเอส ชาเลนเจอร์ ที่สำรวจทะเลในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงเก็บรวบรวมตัวอย่างของปลาฉลามชนิดต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมากอีกด้วย โดยปลาฉลามกอบลินถูกค้นพบที่นอกชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น แต่ก็ยังเป็นเวลาอีกหลายปีต่อมาจึงถูกอนุกรมวิธานทางวิทยาศาสตร์โดยที่ชื่อวิทยาศาสตร์นั้น ตั้งขึ้นมาจากชื่อของ คะคิชิ มิตซุคุริ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งเป็นผู้ที่นำตัวอย่างที่ได้รับจาก อลัน โอลสตัน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ มอบให้แก่ เดวิด สตารร์ จอร์แดน ซึ่งเป็นผู้อนุกรมวิธาน ดังนั้นชื่อวิทยาศาสตร์จึงถูกตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้แก่บุคคลทั้งสองท่านนี้ขณะที่ชื่อสามัญอาจจะแปลได้ว่ามาจากคำว่า "เท็งงุ" (ญี่ปุ่น: 天狗) ซึ่งเป็นปีศาจในความเชื่อของญี่ปุ่นโบราณ ที่มีใบหน้าสีแดงและจมูกแหลมยาว
ปลาฉลามกอบลินที่ยังชีวิตมีไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ตัวหนึ่งถูกเก็บไว้ที่มหาวิทยาลัยโตโกมีอายุได้เพียงสัปดาห์เดียว และอีกตัวหนึ่งถูกเก็บไว้ที่โตเกียวซีไลฟ์ปาร์ค แต่ก็มีอยู่ได้เพียง 2 วัน