ปลาสับปะรด
ปลาสับปะรดตัวจิ๋วคือ
ปลาชนิดหนึ่งซึ่งดูจากลักษณะรูปร่างหน้าตาลวดลายและสีสันแล้ว จะให้ตั้งชื่ออื่นใดคงไม่ได้นอกจากจะต้องเรียกมันว่า "ปลาสับปะรด" เท่านั้น เพราะรูปร่างหน้าตา สีสัน ลวดลายของมันนั้นเหมือนกับลูกสับปะรดไม่มีผิด หากนึกรูปร่างหน้าตาของมันไม่ออกก็ลองจินตนาการด้วยการนึกถึงสับปะรดสีเหลืองลูกหนึ่งนำมาตัดก้านและขั้วที่ยอดทิ้ง เหลือเพียงลูกสับปะรดกลมๆ แล้วเติมตากลมๆลงไป
นั่นแหละครับปลาสับปะรดที่ว่า มันเป็นความเหมือนที่แทบไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ว่าจะมาเกี่ยวข้องกัน เพราะสิ่งหนึ่งอยู่บนบกอีกสิ่งหนึ่งอยู่ใต้ทะเลลึก บางทีทฤษฎีของผมที่ว่าพระเจ้าผู้สร้างโลกสร้างชีวิต สร้างมนุษย์และสรรพสัตว์นั้นท่านอาจจะเกิดอาการตีบตันขึ้นมาเมื่อสร้างสรรพชีวิตมามากๆเข้า จึงอาจจะมีการลักไก่ลอกแบบสิ่งมีชีวิตบนบกไปไว้ใต้ทะเลลึกบ้าง ด้วยนึกว่าคงไม่มีใครรู้หรอก ที่ไหนได้ วันหนึ่งมนุษย์ที่ท่านสร้างขึ้นให้ใช้ชีวิตอยู่บนบกนั่นแหละกลับดำลงไปพบไปเห็นเข้าเสียจนได้
และมีอีกพันธุ์หนึ่งคือ Cleidopus glorismris (De Vis,1882 )
ซึ่งมีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน และมีชื่อเรียกขานว่าปลาสับปะรดเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าปลาสับปะรดนี้เป็นปลาที่ค่อนข้างจะหาดูได้ยาก และไม่เคยมีภาพถ่ายหรือมีรายงานการพบอย่างเป็นทางการในทะเลไทยกันมาก่อน กระทั่งเมื่อฤดูกาลดำน้ำฝั่งทะเลอันดามันที่ผ่านมา
ริเชลิวก็ต้องถามหาเจ้าปลาสับปะรดตัวนี้ ไม่น่าเชื่อครับว่าเจ้าปลาตัวเล็กๆตัวเดียวจะสร้างมูลค่าจากกิจกรรมดำน้ำได้อย่างมากมายมหาศาล ซึ่งก็คงจะไม่ต่างอะไรกับวงการดูนกแหละครับ หากมีข่าวการพบนกหายากตัวใดขึ้นมาที่ไหน บรรดานักดูนกก็มักจะหลั่งไหลกันไปดูให้เห็นกับตา มันเป็นความสุขที่คนที่ไม่ได้เข้าไปสัมผัสคงยากจะเข้าใจ
ผมได้มีโอกาสลงไปดูเจ้าปลาสับปะรดตัวนี้ตอนปลายฤดูกาลดำน้ำก่อนที่คลื่นลมจะเข้าปกคลุมฝั่งทะเลอันดามัน โชคดีที่ทริปนั้นน้ำทะเลค่อนข้างใส เพราะฤดูกาลที่ผ่านมานั้นน้ำทะเลแถบอันดามันนั้นเอาแน่เอานอนอะไรไม่ค่อยได้ ไดฟ์ลีดเดอร์ของเรือภานุณีพาดำลงไปตรงผาหินใกล้ๆกับสายทุ่น บริเวณผาหินตรงจุดนั้นเป็นผาหินโล่งๆไม่น่ามีอะไรให้ดู แต่ก็มีโพรงหินขนาดใหญ่กว่าตัวคนนิดหน่อย เว้าลึกลงไปราวเมตรกว่าๆ
เจ้าปลาสับปะรดนี้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดราว 25 เซนติเมตร โดยปรกติแล้วมันจะอาศัยอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ แต่เจ้าสับปะรดตัวจิ๋ว ที่พบในโพรงหินที่ริเชลิวนี้ พบอยู่เพียงตัวเดียวอย่างโดดเดี่ยว บริเวณความลึกราว 13-14 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นปลาวัยเด็กที่เมื่อฟักเป็นตัวแล้วก็จะกระจายกันไปแอบหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยเป็นที่อาศัย จนกระทั่งเมื่อโตพอที่จะออกเผชิญโชคก็จะว่ายออกไปท่องเที่ยว เมื่อพบเจอเข้ากับเผ่าพันธุ์เดียวกันก็จะเริ่มรวมกลุ่มอยู่อาศัยด้วยกัน
ผมก้มๆเงยๆสำรวจเจ้าปลาสับปะรดอยู่อย่างชั่งใจ ว่าจะมุดลงไปถ่ายภาพดีหรือไม่ สำรวจดูรอบข้างโชคดีว่าทำเลรอบข้างเป็นหินล้วนๆ ไม่มีปะการัง การมุดลงไปถ่ายในช่องโพรงหินที่มีขนาดพอดีๆตัวคงพอทำได้โดยไม่ยาก แต่สิ่งที่กังวลก็คงกลัวว่ากำลังมุดถ่ายภาพอยู่ดีๆ อาจจะเจอพวกฝรั่งโรคจิตบางคนมา
กระตุกแข้งกระตุกขาให้เสียอารมณ์ ด้วยความเบาปัญญาหรืออาจจะไม่รู้ว่ากำลังมุดไปทำอะไร แต่เมื่อตรึกตรองดูอย่างถี่ถ้วนก็ตัดสินใจมุดลงไป
เพราะหากไม่ถ่ายเจ้าปลาสับปะรดที่พบกันเป็นครั้งแรกตัวนี้ในไดฟ์นี้แล้ว พรุ่งนี้หากมันว่ายย้ายที่ไป แล้วไม่มีรายงานว่าใครพบเจ้าปลาชนิดนี้อีกเลยในน่านน้ำทะเลไทย นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเสียดายมากกว่า เอ้าเป็นไงก็เป็นกันครับไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ภาพที่น่ารักของเจ้าปลาสับปะรดตัวจิ๋วนี้มาฝากท่านผู้อ่าน