สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความเฉลียวฉลาดไม่น้อยไปกว่าคนเลยคงจะเป็นสัตว์น้ำที่มีรูปร่างคล้ายกับปลาแต่ไม่ใช่ปลาอย่าง โลมา ซึ่งโลมานี้มีลักษณะอวัยวะเหมือนปลาแทบจะทุกอย่าง อาศัยอยู่ในทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มเราจะเห็นทั่วไปตามสวนสัตว์ที่มีจัดแสดงโชว์ความฉลาดของมันให้เราได้เห็น โลมานั้นมีหลักๆ ประมาณ 5 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะประจำตัวที่แตกต่างกันออกไป และโลมาต่อไปนี้ที่เราจะมาพูดถึงกันเป็นโลมาชนิดหายาก มีน้อย แล้วยังมีในประเทศไทยเราอีกด้วย คือ โลมาสีชมพู
โลมาสีชมพู อยู่ในสายพันธุ์โลมาหลังโหนก ซึ่งส่วนใหญ่โลมาหลังโหนกนั้นมักจะอาศัยอยู่ตามมหาสมุทร ลักษณะของโลมาชนิดนี้จะมีปากที่เป็นงอยยาวโค้งไม่มาก ส่วนที่มาของชื่อพันธุ์นั้นมาจากครีบที่อยู่บริเวณหลังของมันที่มีลักษณะเป็นสันจึงทำให้โลมาชนิดนี้มีชื่อว่า โลมาหลังโหนกนั่นเอง โลมาชนิดนี้หากโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดใหญ่ที่สุดคือ 3.2 เมตรสำหรับตัวผู้ ส่วนตัวเมียจะมีขนาดไม่เกิน 2.5 เมตร มีอายุไม่เกิน 40 ปี
ส่วนโลมาสีชมพูนั้น สีของลำตัวมันไม่ได้เกิดจากการผลิตเม็ดสีแต่อย่างใด ถ้าหากโลมามีอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของมันจะมีปฏิกิริยากับหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดของมันมีสีที่เข้มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายรวมถึงยับยั้งไม่ให้ร่างกายของมันมีอุณหภูมิที่สูงจนเกินไปซึ่งนำมาถึงอันตรายถึงชีวิตของมันได้
ปกติโลมาสีชมพู มักจะอยู่ในแถบชายฝั่งน้ำตื้นที่มีความลึกประมาณ 20 เมตร ส่วนมากจะพบในแถบอ่าวรีพัลส์ หรือเกาะลันตาที่เรารู้จักกันที่ และไม่นานมานี้เราก็ได้พบมันอยู่ที่ทะเลขนอม ที่อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ของเมืองไทยเรานั่นเอง
จากการสังเกตจากชาวประมงทั่วไปนั้นได้ความมาว่าโลมาของทะเลขนอมแห่งนี้มีนิสัยน่ารักเฉลียวฉลาดไม่ตื่นผู้คน ส่วนใหญ่มักจะกินอาหารจำพวกปลาตัวเล็ก ปลาหมึก กุ้ง ปู หรือสัตว์น้ำชนิดเล็กอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของมัน
ถ้าหากว่าใครอยากที่จะชื่นชมความน่ารักของโลมาสีชมพูที่เป็นโลมาหายาก แต่ถ้าไปถึงนครศรีธรรมราชแล้วเป็นการเดินทางที่ลำบาก คุณสามารถไปที่จังหวัดจันทบุรี หรือจะเป็นบริเวณอ่าวฮ่องกงก็ได้ เพราะที่นั่นจะทำให้คุณเห็นฝูงโลมาสีชมพูกว่าร้อยตัวว่ายน้ำโชว์ร่างกายที่สวยงามให้คุณเห็นเป็นบุญตา ส่วนใครที่ได้เข้าไปเที่ยวนั้นสิ่งที่เจ้าหน้าที่เคร่งครัดที่สุดคือการให้อาหาร เพราะถ้าหากคุณให้อาหารแก่โลมาเหล่านี้ จะทำให้โลมาเกิดพฤติกรรมเคยตัวไม่ยอมหาอาหารกินเอง
