🐳ฮือฮานักวิจัยไทย-อเมริกันค้นพบปลาผีเสื้อถ้ำเดินได้ กลางถ้ำแม่ฮ่องสอน เชื่อพันธุ์เดียวในโลก
วันที่ 1 เมษายน ผศ.ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า ตนและทีมงานร่วมกับนักวิจัยจาก The New Jersey Institute of Technology ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการวิจัยปลาที่มีชื่อว่า ′ปลาผีเสื้อถ้ำ′ หรือ Waterfall climbing cavefish ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Cryptotora thamicola ที่มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 5-6 เซนติเมตร ลักษณะเฉพาะคือ ไม่มีตา ไม่มีสี ลำตัวผอมลีบ และมีครีบที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับตัว
โดยพบอาศัยอยู่ในถ้ำบางแห่งในเขตอ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนเท่านั้น จัดเป็นสัตว์ถิ่นเดียวของไทย และเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย ประชากรในถิ่นอาศัยที่สามารถเข้าถึงได้มีน้อยมาก แต่อาจอาศัยอยู่ในถ้ำส่วนอื่นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้อีก
“ปลาผีเสื้อถ้ำนั้น มีลักษณะพิเศษคือ สามารถเดินคล้ายสัตว์ 4 ขาในน้ำ สวนทางน้ำได้ จึงทำการศึกษาวิจัยในเรื่องปลาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเป็นสัตว์อนุรักษ์ ไม่สามารถจับมาศึกษาเป็นๆ ได้ จึงใช้วิธีเอาตัวอย่างดองในพิพิธภัณฑ์มาสแกนด้วยเครื่อง CT-scan ทำเป็นภาพ 3 มิติของกายวิภาค
และจากการศึกษาโดยได้นำเอาภาพวิดีโอการเดินของปลาผีเสื้อถ้ำมาศึกษา พบว่ามีลักษณะคล้ายกับสัตว์ 4 ขากำลังคืบคลาน กระดูกเชิงกรานของปลาผีเสื้อถ้ำไม่ได้เป็นแค่ชิ้นเล็กๆ คู่หนึ่ง ลอยอยู่ในเนื้อปลาเหมือนกับปลาทั่วไป ซึ่งใช้สำหรับการพยุงครีบคู่หลังเท่านั้น แต่กระดูกเชิงกรานของปลาผีเสื้อกลับมีความซับซ้อนสูง เชื่อมต่อกับกระดูกสันหลังผ่านกระดูกซี่โครงซึ่งยื่นยาวออกมา เหมือนกับของสัตว์บก 4 ขา ทำให้สามารถยกตัวขึ้นจากพื้นได้ด้วยรยางค์คู่หลัง คล้ายกับกระดูกรยางค์ของซาลามานเดอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มากกว่าของปลา ถือเป็นปลาที่มีกระดูกส่วนเชิงกรานคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน พันธุ์เดียวในโลก ถือเป็นรอยต่อประวัติศาสตร์โลก ด้านชีววิทยา และวิวัฒนาการ รวมทั้งสามารถต่อยอดการศึกษาได้อีกมาก
จนได้รับการยืนยันการค้นพบ Tetrapod-like pelvic girdle in a walking cavefish และตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports”
ผศ.ดร.อภินันท์กล่าวอีกว่า ในทางชีววิทยาเรารู้ว่าบรรพบุรุษของเราวิวัฒนาการจากปลาในทะเลขึ้นมาเป็นสัตว์บก ตั้งแต่ประมาณ 375 ล้านปีก่อน
แต่ก็ยังเป็นปริศนาว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ซากฟอสซิลที่ขุดค้นพบก็ยังมีอยู่อย่างจำกัด แต่การค้นพบนี้ทำให้ทราบว่าปลาผีเสื้อถ้ำ หรือ Cryptotora thamicola ซึ่งพบในถ้ำภาคเหนือของไทย และสามารถปีนก้อนหิน ผ่านสายน้ำตกในถ้ำได้นั้น มีลักษณะกระดูกที่บรรพบุรุษของมนุษย์ที่เป็นสัตว์น้ำ น่าจะมีสำหรับการเดิน ซึ่งรวมถึงการมีกระดูกเชิงกรานด้วย
โดยการค้นพบนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมาก ครีบปลาทั่วไปนั้นใช้ในการดันน้ำ ไม่ใช่ไว้ดันตัวเองจากพื้น บรรพบุรุษของมนุษย์ที่เคยเป็นปลามาก่อน จึงต้องมีวิวัฒนาการหลายอย่างก่อนจะขึ้นมาบนบกได้ เช่น มีกระดูกเชิงกรานที่เชื่อมต่อรยางค์ขาหลัง เข้ากับกระดูกสันหลังของมัน จึงจะสามารถเดินแบบสัตว์บก 4 ขาได้
Waterfall climbing cavefish
กรณีปลาตีนนั้นใช้แค่ครีบคู่หน้าดันพื้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ′ปลาผีเสื้อถ้ำ′ ถือเป็นสัตว์อนุรักษ์ หายากและใกล้สูญพันธุ์ ทั้งยังค่อนข้างบอบบาง เป็นสัตว์ที่มาต่อจิ๊กซอว์ความเชื่อมโยงด้านวิวัฒนาการสัตว์บกสู่สัตว์น้ำ จึงสมควรอย่างยิ่งในการศึกษาต่อยอดด้านชีววิทยา และหามาตรการดูแลอนุรักษ์ปลาผีเสื้อถ้ำอย่างเข้มงวดต่อไป